Thaiflix vs netflix
.
มันมีสองเรื่องมั่วอยู่ด้วยกัน คือ เรื่อง content (เนื้อหา) และ platform
.
เรื่อง platform เนี่ย มีเงินก็ขึ้นได้ แต่จะขึ้นแล้วถูกใจผู้ใช้งานหรือไม่ ประสิทธิภาพของการจัดการข้อมูลและโปรแกรม อันนั้นอีกเรื่องนึง
.
บน platform ก็มี strategy อยู่ เช่น tiktok เน้นคลิปสั้น, YouTube และ Facebook เน้นคลิปหลายนาที ส่วน Netflix นี่เน้นนั่งนานเป็น couch potato เน้นนั่งรากงอก
.
แล้วก็มีทีวี แบบ on air.. นี่ก็ไม่ได้ดูทีวีจนจำไม่ได้แล้วค่ะว่าหน้าตาเป็นยังไง
.
เรื่องการวาง strategy นี่หัวใจเลยค่ะ
.
ยังมีการโปรโมทอีก ว่าเราจะเน้นแบบไหน .. ไม่ได้เน้นตามใจเรา เน้นคอนเท้นตามใจกลุ่มลูกค้าที่กำหนดไว้ ลูกค้า netflix, masterclass ก็แตกต่างกัน
.
Netflix ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนขาย media แต่ คิดว่าตัวเองเป็น tech company ที่มี media เป็น product ดังนั้นมุมมองจึงค่อนข้างต่างกับสัมภาษณ์ thaiflix
.
เราข้ามเรื่อง strategy ไปก่อน เพราะคุยกันแบบนี้ 3วันไม่จบ
.
อีกเรื่องนึงคือ content.. เราจะทำ content ให้ใครดู? หากการผลิต content เพื่อให้โฆษณาชาติไทย ไม่ต้องทำ platform ค่ะ ทำแบบบุพเพสันนิวาสที่ไปฉาย netflix ดีกว่า ทำให้มันได้มาตรฐานที่ดี
.
หากจะตั้งใจทำให้รายได้ของชาติมาจากการขาย content แบบจีน (เขาให้สัมภาษณ์มาแบบนี้) ควรจะกลับไปพัฒนานักทำ content ค่ะ
.
บ่นมาถึงนี่แล้วก็ถอนใจเฮือกๆ หมดแรงเขียนต่อ ประเทศไทยควรทำ war room แล้วเอานักธุรกิจมานั่งได้แล้ว.. แน่นอน การมีนักธุรกิจมานั่งโต๊ะกับนักการเมืองคนอาจจะกลัวมีผลประโยชน์ทับซ้อน แต่การเอานักการเมืองมานั่งด้วยกัน เราก็กลัวผลประโยชน์ทับซ้อนอยู่ดี ดังนั้นเอาคนเก่ง ทำธุรกิจเป็นมาระดมสมองช่วยชาติดีกว่าค่ะ
Search